moisturizer กับ moisturizing barrier ต่างกันยังไง Blog 25 พ.ย. 2024 136 share tweet share ในยุคที่ความงาม และการดูแลผิวพรรณได้รับความนิยมอย่างสูง การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการเลือกครีมบำรุงผิว หรือที่เรียกว่า moisturizer (มอยส์เจอไรเซอร์) และ moisturizing barrier (มอยส์เจอไรซิ่ง แบร์ริเออร์) ซึ่งทั้งสองคำนี้มีความหมาย และการใช้งานที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ ซึ่งหากไม่เข้าใจอาจทำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผิดประเภท ThaiSeoLink ทำให้การดูแลผิวไม่บรรลุผลตามที่ต้องการ Moisturizer (มอยส์เจอไรเซอร์) ครีมบำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น Moisturizer หมายถึง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีหน้าที่หลักในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งมักจะใช้ในช่วงที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นจากการเผชิญกับอากาศแห้ง หรือหลังจากทำความสะอาดผิว เช่น การล้างหน้าหรืออาบน้ำ ที่ทำให้ผิวขาดน้ำ และเกิดการระเหยของความชื้นจากผิว Moisturizer ช่วยเติมน้ำเข้าสู่ผิว ซึ่งจะช่วยให้ผิวดูสดชื่น และมีความนุ่มนวลขึ้น ส่วนประกอบหลัก ของมอยส์เจอไรเซอร์มีดังนี้ Humectants : เช่น กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือกลีเซอรีน (Glycerin) ที่ช่วยดูดซับความชื้นจากอากาศและนำมาเติมเต็มให้ผิวEmollients : เช่น น้ำมันธรรมชาติ (เช่น น้ำมันอาร์แกน, น้ำมันโจโจบา) ที่ทำหน้าที่ทำให้ผิวอ่อนนุ่มและเรียบเนียนOcclusives : เช่น วาสลิน (Vaseline) หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่วยล็อกความชื้นในผิวไม่ให้ระเหยออกไปการใช้มอยส์เจอไรเซอร์นั้นเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิวให้ชุ่มชื้น และมีความสมดุลในระดับน้ำผิวหนัง แต่ไม่เพียงพอในกรณีที่ต้องการการป้องกันผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้นในระยะยาว Moisturizing Barrier (มอยส์เจอไรซิ่ง แบร์ริเออร์) การสร้างเกราะป้องกันผิว Moisturizing barrier เป็นแนวคิดที่ครอบคลุมมากขึ้น เกี่ยวข้องกับการสร้างเกราะป้องกันผิวที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิวระยะยาว โดยการรักษาสมดุลของน้ำและการป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวหนัง ตัวผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้าง “barrier” จะมีส่วนประกอบที่ช่วยเสริมการทำงานของชั้นผิว เช่น การฟื้นฟูหรือสร้างชั้นปกป้องที่แข็งแรงเพื่อไม่ให้ความชื้นจากผิวสูญหาย ส่วนประกอบหลัก ของผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้าง moisturizing barrier มักจะประกอบไปด้วย Ceramides : สารที่พบในชั้นผิวที่ทำหน้าที่เสริมสร้างและรักษาโครงสร้างของผิวให้แข็งแรง ช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นFatty Acids : กรดไขมันที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวCholesterol : ช่วยสร้างโครงสร้างของเซลล์ผิวให้แข็งแรง ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นLipids : สารไขมันที่มีหน้าที่ในการป้องกันการระเหยของน้ำจากผิวต่างจากมอยส์เจอไรเซอร์ทั่วไปที่มีการเติมน้ำให้กับผิว moisturizing barrier จะช่วยเสริมสร้างการป้องกันและคงความชุ่มชื้นในผิวอย่างยาวนาน โดยการปรับสมดุลให้ชั้นผิวสามารถกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น และป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ความแตกต่างระหว่าง Moisturizer กับ Moisturizing Barrier ฟังก์ชันการใช้งาน :Moisturizer ทำหน้าที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวทันทีหลังการใช้งานMoisturizing Barrier จะสร้างเกราะป้องกันเพื่อไม่ให้ความชุ่มชื้นหลุดออกจากผิว และช่วยรักษาความสมดุลของผิวในระยะยาว ส่วนประกอบ :Moisturizer มักมีสารที่ช่วยเติมน้ำให้กับผิว เช่น กรดไฮยาลูโรนิก และกลีเซอรีนMoisturizing Barrier มักมีสารที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้นผิว เช่น เซราไมด์, กรดไขมัน, และคอลเลสเตอรอล ประโยชน์ในระยะยาว :Moisturizer เหมาะสำหรับการให้ความชุ่มชื้นที่ต้องเติมซ้ำ ๆ ในระหว่างวันMoisturizing Barrier เหมาะสำหรับการป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นจากผิวในระยะยาว และรักษาสมดุลความชุ่มชื้น moisturizer กับ moisturizing barrier ผลิตภัณฑ์รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว แม้ว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองจะมีความคล้ายคลึงกันในการบำรุง และรักษาความชุ่มชื้น แต่ความแตกต่างที่สำคัญคือ moisturizer มุ่งเน้นที่การเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวในขณะที่ moisturizing barrier จะเน้นที่การสร้างเกราะป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นจากผิว เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นและแข็งแรงในระยะยาวหากคุณต้องการดูแลผิวให้ชุ่มชื้นและมีสุขภาพดีในระยะยาว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสร้าง moisturizing barrier อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะมันไม่เพียงแต่ช่วยเติมน้ำให้กับผิว แต่ยังช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวอย่างมีประสิทธิภาพ ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล : BIODERMA tags: moisturizermoisturizing barrierThaiSeoLinkผลิตภัณฑ์รักษาความชุ่มชื้น เรื่องที่เกี่ยวข้อง Blog หมึกกรุบของอาหลิว vs หมึกกรุบของซันซุ ใครจะเป็นราชาแห่งความกรุบ Blog กล้องวงจรปิดไร้สายจากแบรนด์คุณภาพ ราคาดี tp-link vs IMILAB Blog 5 เหตุผลที่กันแดดอินฟลูดัง Moleculogy และ INGU ฮิตสุดในปีนี้ Blog กัวซาไฟฟ้า VS กัวซาหิน 5 ข้อแตกต่างที่คุณควรรู้ Blog เปรียบเทียบสารพิษในบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ Blog 5 ข้อเปรียบเทียบ วิตามินนอนหลับ Seen PM vs Blackmores Multi B ตัวไหนดีกว่ากัน