✅ ขั้นตอนแรก: ยืนยันผลให้ชัวร์
- ตรวจซ้ำอีกครั้งภายใน 12 ชั่วโมง
หากผล ATK ชุดแรกขึ้น 2 ขีด แนะนำให้ใช้ชุดตรวจอีกยี่ห้อหนึ่งซ้ำ เพื่อยืนยันความถูกต้องThaiSeoLink - สังเกตอาการเบื้องต้น
- มีไข้หรือไม่?
- ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล?
- หายใจติดขัด หรือแน่นหน้าอก?
- แจ้งผลผ่านแอปฯ หรือสายด่วนสุขภาพใกล้บ้าน
เช่น หมอพร้อม หรือแอปโรงพยาบาลที่คุณมีสิทธิรักษา เพื่อเข้าสู่ระบบดูแลผู้ป่วยโควิด
🏠 ขั้นตอนที่สอง: แยกตัวอย่างปลอดภัย
- แยกห้อง – แยกของใช้ – แยกห้องน้ำถ้าเป็นไปได้
ลดโอกาสแพร่เชื้อไปยังสมาชิกครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรัง - สวมหน้ากากแม้ในบ้าน
โดยเฉพาะเวลาที่จำเป็นต้องพบคนอื่น หรือต้องออกมาจากห้องแยกตัว - ระบายอากาศในบ้านสม่ำเสมอ
เปิดหน้าต่าง เปิดพัดลม ดูดอากาศออก ลดความเข้มข้นของเชื้อ
💊 ขั้นตอนที่สาม: รักษาตัวตามอาการ
- ถ้าอาการเบา (ไข้ต่ำ เจ็บคอเล็กน้อย)
- พักผ่อนมาก ๆ
- ดื่มน้ำอุ่น
- ใช้ยาพาราเซตามอลลดไข้ หรือยาแก้ไอตามอาการ
- ใช้สเปรย์พ่นคอ/ยาฆ่าเชื้อในช่องคอ (ถ้าจำเป็น)
- ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง (อายุ 60+, โรคประจำตัว, ตั้งครรภ์ ฯลฯ)
ควรแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขทันที เพื่อรับยา “Molnupiravir” หรือ “Paxlovid” ภายใน 5 วันหลังมีอาการ - ติดตามอาการทุกวัน
- ตรวจวัดไข้และออกซิเจนปลายนิ้ว (SpO2)
- หาก SpO2 ต่ำกว่า 94% หรือเริ่มหายใจลำบาก ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที
🕒 ขั้นตอนที่สี่: การกักตัว และการกลับเข้าสู่สังคม
- แยกตัวอย่างน้อย 5-7 วัน (ขึ้นกับอาการ)
- หากไม่มีไข้และอาการดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง สามารถพิจารณาออกจากห้องแยกได้
- สวมหน้ากากอีก 5 วันเมื่อต้องออกไปข้างนอก
- ไม่จำเป็นต้องตรวจซ้ำด้วย ATK หากอาการหายแล้ว
เพราะบางรายอาจยังมีเชื้อคงค้าง แต่ไม่สามารถแพร่ต่อได้
🍲 ขั้นตอนที่ห้า: ฟื้นฟูร่างกายหลังหายโควิด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- กินอาหารครบ 5 หมู่ เน้นโปรตีนและผักผลไม้
- ดื่มน้ำมาก ๆ และออกกำลังกายเบา ๆ
- สังเกตอาการ Long COVID เช่น เหนื่อยง่าย ปวดหัว นอนไม่หลับ
หากเป็นนานกว่า 2-3 สัปดาห์ ให้พบแพทย์
