How to ต้มผักให้อร่อย สีสวย และคงคุณค่าสารอาหาร

15 มิ.ย. 2025
12
How to ต้มผักให้อร่อย

การต้มผักเป็นวิธีทำอาหารพื้นฐานที่หลายคนมักเลือกใช้เพราะง่ายและดีต่อสุขภาพ แต่หากต้มไม่ถูกวิธี ผักอาจจะเสียสี เหนียวเละ หรือสูญเสียสารอาหารสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว มาดูเทคนิคการต้มผักให้อร่อย สีสวย และคงคุณค่าทางโภชนาการไว้อย่างเต็มที่กันThaiSeoLink

สารบัญ

🥬 เลือกผักให้เหมาะกับการต้ม

ผักบางชนิดเหมาะกับการต้มมากกว่าผัดหรือทอด เช่น

    • ผักใบเขียว: ผักโขม คะน้า ผักบุ้ง ผักปวยเล้ง
    • ผักหัวและราก: แครอท มันฝรั่ง หัวไชเท้า
    • ตระกูลกะหล่ำ: บรอกโคลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี
    • ฟักแฟง: ฟักเขียว บวบ ฟักทอง

🔥 ขั้นตอนและเคล็ดลับการต้มผักให้อร่อย

    1. ต้มน้ำให้เดือดก่อนใส่ผัก

การใส่ผักลงในน้ำที่ยังไม่เดือด จะทำให้ผักสุกช้า สีคล้ำ และอาจทำให้สูญเสียวิตามินที่ละลายในน้ำอย่างวิตามินซี

    1. เติมเกลือเล็กน้อย

เกลือช่วยให้ผักมีรสกลมกล่อมขึ้น และยังช่วยคงสีเขียวของผักใบให้สดใสไม่ซีดจาง

    1. ไม่ควรต้มนานเกินไป

ผักแต่ละชนิดใช้เวลาต้มต่างกัน เช่น

    • บรอกโคลี / ผักบุ้ง / คะน้า: 1-2 นาที
    • แครอท / หัวไชเท้า / ฟักทอง: 5-10 นาที
      สังเกตว่าเมื่อผักเริ่มนุ่มแต่ยังคงความกรอบอยู่เล็กน้อย ควรยกขึ้นทันที
    1. แช่น้ำเย็นหลังต้ม (Blanching)

สำหรับผักใบเขียว การแช่ในน้ำเย็นหรือน้ำผสมน้ำแข็งหลังต้มทันที จะช่วยหยุดความร้อน ทำให้ผักกรอบ สีสวย และไม่แฉะ

    1. ใช้ตะแกรงหรือกระชอนช่วยกรอง

หลังจากต้มเสร็จ ควรเทผักลงตะแกรงทันทีเพื่อสะเด็ดน้ำร้อน ลดการสูญเสียรสชาติและสารอาหาร

🍲 เมนูที่ใช้ผักต้มได้อร่อย

    • ผักจิ้มน้ำพริก
    • แกงจืดผักรวม
    • สลัดผักลวก
    • ข้าวต้มผัก
    • ผักต้มกินคู่กับปลาทู น้ำพริกกะปิ หรือหมูแดดเดียว
How to ต้มผักให้อร่อย

สรุป

การต้มผักให้อร่อยและได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่แค่ต้มให้สุกเท่านั้น แต่ต้องใส่ใจในขั้นตอนเล็กๆ น้อยๆ เช่น การต้มน้ำให้เดือดก่อน ใส่เกลือเล็กน้อย และไม่ต้มผักจนเละจนเกินไป เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเสิร์ฟผักต้มที่ทั้งอร่อย สีสวย และเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการให้ครอบครัวได้แล้ว