สูตรการคำนวณปริมาณยาต่อหน่วยน้ำหนัก micrograms per kilogram per minute (mcg/kg/min) เป็นวิธีที่ใช้บ่อยในการปรับปริมาณยาให้เหมาะสมกับน้ำหนักของผู้ป่วย และเวลา มักจะใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการการให้ยาแบบต่อเนื่อง อาทิเช่น การใช้ยาผ่านทางหลอดเลือดดำใน ICU หรือห้องผ่าตัด การคำนวณนี้ช่วยให้เราสามารถกำหนดอัตราการให้ยาที่เหมาะสมตามน้ำหนักตัวของผู้ป่วย ซึ่ง ThaiSeoLink การปรับขนาดยาต้องใช้ความระมัดระวัง และความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคำนวณยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ
สูตรการคำนวณ:
- คำนวณปริมาณยาที่ต้องการให้ยาในหน่วย mcg/kg/min
- ข้อมูลที่ต้องใช้:
- D: ปริมาณยาที่ให้ (ในหน่วย mg/hr หรือ mcg/hr)
- W: น้ำหนักของผู้ป่วย (ในหน่วย kg)
- T: เวลาที่ต้องการในการให้ยา (ในหน่วย นาที)
สูตรทั่วไป ที่ใช้ในการคำนวณอัตราการให้ยาในหน่วย mcg/kg/min:
อัตราการให้ยา(mcg/kg/min) = ปริมาณยาที่ต้องการให้
น้ำหนักตัวของผู้ป่วย (kg) × เวลา (นาที)
การคำนวณอย่างละเอียด:
- รู้ปริมาณยาที่ต้องการให้: สมมติว่าเรามียาที่ต้องการให้ในหน่วย mcg (ไมโครกรัม) ต่อชั่วโมง
- แปลงเป็นหน่วยที่ต้องการ: หากคุณมีปริมาณยาเป็น mcg/h (ไมโครกรัมต่อชั่วโมง) คุณจะต้องแปลงเป็น mcg/min (ไมโครกรัมต่อนาที) โดยการหารด้วย 60
ยา (mcg/min) = ยา (mcg/h)
60
- คำนวณอัตราการให้ยาในหน่วย mcg/kg/min:
อัตราการให้ยา (mcg/kg/min) = ยา (mcg/min)
น้ำหนักตัว (kg)
ตัวอย่างการคำนวณ:
สมมติว่าท่านต้องการให้ยา 1000 mcg ต่อชั่วโมงให้กับผู้ป่วยที่มีน้ำหนักตัว 70 kg
- แปลงปริมาณยาเป็น mcg/min:
ยา (mcg/min) = 1,000 mcg/h ≈ 16.67 mcg/min
60
- คำนวณอัตราการให้ยา:
อัตราการให้ยา (mcg/kg/min) = 16.67 mcg/min ≈ 0.238 mcg/kg/min
70 kg
ดังนั้น อัตราการให้ยาที่ต้องการคือประมาณ 0.238 mcg/kg/min
การปรับหน่วย:
- หากมีข้อมูลเป็น mg/min ต้องเปลี่ยนหน่วยเป็น mcg โดยการคูณด้วย 1000 (เพราะ 1 mg = 1000 mcg) ก่อนที่จะคำนวณตามสูตรข้างต้น
- หากเวลาที่ต้องการเป็นชั่วโมง ให้แปลงเวลาเป็นนาที (1 ชั่วโมง = 60 นาที) ก่อนที่จะคำนวณ
เหตุผลที่ควรใช้ สูตรคํานวณยา mcg/kg/min
สูตรคํานวณยา mcg/kg/min เป็นการคำนวณขนาดยาเป็นขั้นตอนที่สำคัญในด้านการแพทย์ โดยทั่วไปแล้ว จะมีสูตร และวิธีการที่ใช้ เพื่อให้ขนาดยาที่ได้มีความถูกต้องตามต้องการ การคำนวณนี้ช่วยให้ท่านสามารถปรับขนาดยาให้เหมาะสมตามน้ำหนักตัวของผู้ป่วย และรักษาระดับยาในกระแสเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่มีการควบคุมอย่างเคร่งครัด ควรทำงานร่วมกับเภสัชกรหรือบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อความแม่นยำ และความปลอดภัยในการใช้ยา
ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
