มิเกล อังเกล กิล มาริน ซีอีโอและผู้ถือหุ้นใหญ่ของสโมสร แอตเลติโก มาดริด ออกโรงวิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน VAR อย่างรุนแรงในเกมที่ “ตราหมี” พ่าย เรอัล มาดริด ในการดวลจุดโทษรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยชี้ว่าจังหวะปัญหาในเกมดังกล่าว คือ จุดเริ่มต้นความล้มเหลวของทั้งฤดูกาล
เกมที่ถูกพูดถึงคือการพ่ายแพ้ของแอต.มาดริดต่อคู่ปรับร่วมเมือง โดยมีจังหวะสำคัญจากการยิงจุดโทษของ ฮูเลียน อัลวาเรซ ที่แม้จะส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ VAR กลับทักท้วงว่าเขาสัมผัสบอลสองจังหวะ ทำให้ผู้ตัดสินตัดสินให้ลูกนั้นเป็น ลูกฟาวล์ และไม่ให้ประตู ส่งผลให้ทีมเสียความได้เปรียบในการดวลจุดโทษ
กิล มาริน เผย “วันนั้นทำลายสภาพจิตใจทั้งทีม”
“เราอยู่ในช่วงลุ้นแชมป์ทุกรายการ จนกระทั่งเจอกับเรอัล มาดริด แล้วก็เกิดการตัดสินที่ผิดพลาดขึ้น ซึ่งทำลายกำลังใจของนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชของเราไปทั้งฤดูกาล” กิล มาริน กล่าว
“หลังจากวันนั้น ผมพยายามอย่างหนักเพื่อปลุกทีมให้กลับมา แต่ผมเข้าใจดีว่าพวกเขาโกรธและผิดหวังแค่ไหน เพราะผมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน ผมโกรธจนนอนไม่หลับด้วยซ้ำ”
เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงกฎ VAR จาก IFAB
จังหวะปัญหาดังกล่าวได้สร้างเสียงวิจารณ์ในวงกว้าง จนในที่สุด IFAB (คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ) ต้องมีการปรับกฎใหม่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า หากนักเตะสัมผัสบอลสองจังหวะในการยิงจุดโทษ แต่ทำไปโดยไม่ตั้งใจ และลูกดังกล่าวเข้าประตู ให้ถือว่า เป็นการยิงใหม่ แทนที่จะถือว่าฟาวล์
บทวิเคราะห์: แอต.มาดริดเสียหายจากทั้งเกมและกฎ
การเปลี่ยนแปลงกฎหลังเหตุการณ์ ทำให้หลายฝ่ายเห็นใจแอต.มาดริด ที่ต้องตกเป็น “เหยื่อของช่องว่างในกฎเดิม” ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจทีม และทำให้พวกเขาจบฤดูกาลแบบ มือเปล่า โดยไร้แชมป์ในทุกรายการ ซึ่งถือว่าผิดความคาดหวังของแฟนบอลอย่างมาก
ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้ยังตอกย้ำถึงความสำคัญของการตัดสินที่แม่นยำ และการใช้ VAR ที่ไม่ควรส่งผลกระทบต่อคุณภาพของเกมหรือบั่นทอนสปิริตของทีมใดทีมหนึ่ง