แมนยูงานหินต่อเนื่อง เทอร์รี่เชียร์หงส์แดงลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก 2025/26
วงการข่าวกีฬาของไทยยังคงให้ความสำคัญกับการนำเสนอทั้งในรูปแบบหนังสือพิมพ์และออนไลน์ โดยเฉพาะเรื่องราวจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่แฟนบอลบ้านเราติดตามกันอย่างใกล้ชิด ล่าสุดมีสองประเด็นน่าสนใจ ทั้งสถานการณ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และมุมมองจากตำนานเชลซีอย่าง จอห์น เทอร์รี่
จับตาความท้าทายผีแดงและบทวิเคราะห์จากตำนาน
เริ่มกันที่ความเคลื่อนไหวของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม ที่ถูกจับตามองอย่างหนัก หลังเปิดฤดูกาล 2025/26 ได้ไม่ดีนัก โดยทีมเพิ่งคว้าชัยชนะเกมแรกจากการเปิดบ้านเฉือน เบิร์นลีย์ ทีมน้องใหม่ไปแบบสุดระทึก 3-2 ส่งผลให้พวกเขามีผลงาน ชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ 1 รั้งอันดับ 9 ของตารางคะแนนในตอนนี้ ฟอร์มที่ยังไม่นิ่งทำให้บ่อนพนันในอังกฤษจัดให้กุนซือโปรตุกีสเป็นเต็งหนึ่งที่จะโดนปลดจากตำแหน่ง
ความกดดันจะทวีคูณขึ้นไปอีกเมื่อแมนฯ ยูไนเต็ดกลับมาจากโปรแกรมทีมชาติ เพราะต้องเจอเกมหนักติดๆ กัน ไล่ตั้งแต่บุกเยือนคู่ปรับร่วมเมือง แมนฯ ซิตี้ ต่อด้วยการเปิดรังพบเชลซี และยังมีคิวบิ๊กแมตช์กับลิเวอร์พูล รวมถึงเกมกับสเปอร์สและเอฟเวอร์ตันที่ไม่ง่ายเลยใน 10 นัดถัดไป ซึ่งอาจเป็นตัวชี้ชะตาว่าพวกเขาจะยืนระยะในลีกได้มากแค่ไหน
ด้านอีกหนึ่งกระแสร้อนจากพรีเมียร์ลีก มาจากปากของ จอห์น เทอร์รี่ อดีตกัปตันทีมเชลซี วัย 44 ปี ที่ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อดัง ทอล์คสปอร์ต โดยเจ้าตัวมองว่าลิเวอร์พูลยังเป็นตัวเต็งเบอร์หนึ่งที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ “หงส์แดง” ไม่เพียงแค่มีศักยภาพของทีมที่ลงตัว แต่ยังมีแรงผลักดันมหาศาลจากเหตุการณ์สูญเสีย ดีโอโก โชต้า ที่สร้างแรงจูงใจให้เพื่อนร่วมทีมลงสนามด้วยพลังที่มากขึ้นกว่าเดิม ขณะเดียวกันเทอร์รี่ยังชี้ให้เห็นจุดเปราะบางของแมนฯ ซิตี้ และมองว่าเชลซียังขาดประสบการณ์พอในการเบียดแย่งแชมป์ ทำให้เขาอยากเห็นลิเวอร์พูลก้าวขึ้นป้องกันบัลลังก์ได้อีกสมัย
สรุปความน่าสนใจ
สองประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นว่า พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26 ยังเต็มไปด้วยความเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นเก้าอี้กุนซือของรูเบน อโมริม ที่ต้องเจอบททดสอบสำคัญ หรือการที่ตำนานลูกหนังอย่างจอห์น เทอร์รี่ออกมาสนับสนุน “หงส์แดง” ให้รักษาแชมป์เอาไว้ได้ สำหรับแฟนบอลไทย ไม่ว่าจะติดตามผ่านสื่อสิ่งพิมพ์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ ย่อมได้เห็นการนำเสนอข่าวที่เข้มข้น น่าติดตาม และสะท้อนความเคลื่อนไหวจากเวทีลูกหนังโลกอย่างร้อนแรงเช่นเดิม
