กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างหนักในโลกออนไลน์ หลังจากนักแสดงสาวลูกครึ่งชื่อดัง มารี เบรินเนอร์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวกลางด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังเธอ ปฏิเสธการเป่าแอลกอฮอล์ถึง 3 ครั้ง แม้เจ้าหน้าที่จะย้ำซ้ำๆ จนถูกตั้งข้อหาเมาแล้วขับและนำตัวส่ง สน.ทันทีThaiSeoLink
ดราม่ากลางด่าน Porsche สีเขียว
ในเหตุการณ์ดังกล่าว มารีขับรถ Porsche สีเขียว โดยมีนักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง “บอส – อัศม์กรณ์ สิงห์สีกรกุล” นั่งเคียงข้าง ซึ่งไม่เพียงแต่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ยังมีการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมใช้คำพูดกดดันเจ้าหน้าที่ ทำให้เรื่องบานปลายและถูกบันทึกคลิปเผยแพร่จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์
ผลสุดท้าย ศาลแขวงพระนครเหนือได้มีคำตัดสินให้
- มารี เบรินเนอร์ จำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท รอลงอาญา 2 ปี พร้อมทำบริการสังคม 12 ชั่วโมง และถูกพักใบขับขี่ 6 เดือน
- บอส อัศม์กรณ์ จำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท รอลงอาญา 1 ปี
โซเชียลแห่ติด #มารีเบรินเนอร์
ทันทีที่ข่าวแพร่สะพัด แฮชแท็ก #มารีเบรินเนอร์ ก็ขึ้นเทรนด์บน X (Twitter) อย่างรวดเร็ว หลายคนวิจารณ์พฤติกรรมเมาแล้วขับว่าเป็นเรื่องไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะในฐานะบุคคลสาธารณะ ขณะที่อีกมุมหนึ่งกลับจับตาไปที่ความสัมพันธ์ของมารีกับบอส
ปมร้อน! รักซ้อนอดีตเพื่อนสนิท
สิ่งที่ทำให้ดราม่าร้อนแรงยิ่งขึ้น คือกระแสที่สังคมออนไลน์โยงไปยังประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัว เนื่องจาก “บอส” เคยเป็นอดีตสามีของ เชอรีน ณัฐจารี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของมารีมาก่อน ทำให้ผู้คนวิพากษ์กันว่าความสัมพันธ์นี้อาจเป็น “รักซ้อน” ที่บั่นทอนมิตรภาพ
แม้เจ้าตัวทั้งคู่ยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้แจงอย่างเป็นทางการ แต่เสียงวิจารณ์ก็ยังคงถาโถม ทั้งในแง่การกระทำผิดกฎหมายและเรื่องศีลธรรม
สรุป
กรณีของมารี เบรินเนอร์ จึงไม่ใช่แค่คดีเมาแล้วขับธรรมดา แต่ยังถูกซ้ำเติมด้วยดราม่าความสัมพันธ์ที่สังคมจับตาอย่างใกล้ชิด คงต้องติดตามกันต่อว่า หลังจากนี้เธอจะออกมาเคลื่อนไหวหรือชี้แจงอย่างไร และเส้นทางในวงการบันเทิงจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด
