วันพุธ, 6 สิงหาคม 2568

รีวิวหนัง “Home Sweet Home Rebirth” จากเกมไทยสุดหลอน สู่หนังฮอลลีวูดที่ไม่อาจหนีคำวิจารณ์

06 ส.ค. 2025
27

จากเกมไทยสู่ความฝันระดับโลก…ที่สะดุดตั้งแต่บท

“Home Sweet Home Rebirth โฮมสวีทโฮม กำเนิดใหม่” คือหนึ่งในความพยายามครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมหนังไทย ที่กล้าต่อยอดจากซอฟต์พาวเวอร์อย่างเกมสยองขวัญชื่อดังไปสู่จอภาพยนตร์ระดับอินเตอร์ พร้อมตั้งใจปักธงให้โลกรู้ว่า “ไทยก็ทำหนังแฟนตาซี-สยองขวัญได้” และแน่นอนว่าหนังมีทุนสร้าง โปรดักชัน และไอเดียที่ทะเยอทะยาน แต่ก็น่าเสียดายที่มันกลับสะดุดตั้งแต่พื้นฐานของบทภาพยนตร์

เนื้อเรื่อง: พื้นที่แห่ง “นิวรณ์” ที่ทั้งลึกลับ…และเละเทะ

หนังเปิดด้วยฉากของ “เจค” นายตำรวจที่หลุดเข้าไปในมิตินรกชื่อ “นิวรณ์” ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ไล่ล่าคนร้ายกราดยิงในห้าง ซึ่งระหว่างนั้น ภรรยาของเขา “ปรางค์” ก็ถูกดูดเข้าไปในโลกเดียวกัน ความหวังเดียวคือ “พระลึกลับ” ผู้ช่วยชี้ทาง และการขัดขวาง “เมฆ” ตัวร้ายที่จะเปิดประตูนรกโดยใช้ปรางค์เป็นเครื่องสังเวย

พล็อตดูน่าสนใจใช่ไหม? แต่ปัญหาคือ…บทไม่สามารถเชื่อมโยงองค์ประกอบต่าง ๆ ให้เข้ากันได้เลย ทุกอย่างเหมือนถูกยัดเยียดให้เกิดขึ้นโดยไม่มีที่มาและไม่มีผลลัพธ์ที่น่าจดจำ

โปรดักชันระดับโลก แต่ผลลัพธ์กลับดู “ย้อนยุค”

แม้จะมี Yggdrazil Group จากฝั่งไทยจับมือกับ Altit Media Group จากฝั่งอเมริกา พร้อมได้สองผู้กำกับที่ถนัดด้านวิชวลเอฟเฟกต์ แต่สิ่งที่เห็นบนจอกลับทำให้เรานึกว่า “นี่มันงานซีจีเมื่อสิบปีก่อนไม่ใช่เหรอ?”

จินตนาการล้ำ แต่การนำเสนอขาดสมดุล โดยเฉพาะฉากอสูรและมอนสเตอร์ ที่แม้จะมีแรงบันดาลใจจากอนิเมะญี่ปุ่นและหนังเวทมนตร์จากจักรวาลมาร์เวล แต่กลับไม่มีอะไรที่ทำให้ผู้ชมรู้สึก “ว้าว” ได้เลย

การแสดง: แคสต์ดี…แต่โดนบทบ่อนทำลาย

นักแสดงนำทั้ง “ญาญ่า-อุรัสยา”, “วิลเลียม โมสลีย์” และ “มิคาเอล มอร์โรเน” ต่างเป็นชื่อที่มีศักยภาพ แต่บทที่ไร้ทิศทางทำให้ไม่มีใครสามารถเปล่งประกายได้จริงจัง ญาญ่าแบกหนังอยู่ฝ่ายเดียว ขณะที่พระเอกอย่างโมสลีย์กลับมีความหนักแน่นน้อยกว่าที่คาด และมอร์โรเนก็เป็นตัวร้ายที่ไร้เสน่ห์ ไร้จุดพีค

การตัดต่อ & โทนหนัง: เหวอจนผู้ชมตามไม่ทัน

การตัดต่อของหนังเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ สลับฉากแบบไม่มีจังหวะ ไม่มีจุดเชื่อม แสงสีที่ควรสร้างอารมณ์กลับตัดกับธีมหนังอย่างน่าเสียดาย ยิ่งเมื่อถึงฉากไคลแมกซ์ที่ควรยิ่งใหญ่ หนังกลับถอยหลังลงคลองอย่างน่าตกใจ

สรุป: ไอเดียดีแต่พังยับ เพราะขาดแก่นกลาง

“Home Sweet Home Rebirth” คือหนังที่มีทุกอย่างในมือ ทั้งทุนสร้าง ทีมงานมืออาชีพ นักแสดงคุณภาพ และต้นฉบับที่แข็งแรงจากเกมไทยชื่อดัง แต่กลับล้มเหลวเพราะ “บทหนัง” ไม่สามารถขับเคลื่อนองค์ประกอบทั้งหมดได้ ทำให้สิ่งที่ควรเป็นปรากฏการณ์สยองขวัญ กลับกลายเป็นงานทดลองที่ยังไม่พร้อมออกฉาย

ไม่ใช่ว่าไทยทำหนังสเกลใหญ่ไม่ได้ แต่บทเรียนครั้งนี้สอนเราว่า งานเขียนบทที่แข็งแรงคือ “หัวใจ” ของทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะมีเครื่องมือครบมือขนาดไหนก็ตาม

คะแนนจากทีมงาน Thaiseolink

  • ภาพรวม: ★★★★★☆☆☆☆☆ (5.0/10)
  • การเล่าเรื่อง: ★★★★☆☆☆☆☆☆ (4.9/10)
  • การแสดง: ★★★★★★☆☆☆☆ (6.4/10)
  • เทคนิคงานสร้าง: ★★★★★☆☆☆☆☆ (5.6/10)
  • บทภาพยนตร์: ★★★☆☆☆☆☆☆☆ (3.8/10)
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
รีวิวหนัง “อ่านชะตาวันสิ้นโลก” การเดินทางจากนิยายสู่ภาพยนตร์สุดระทึก ที่ทั้งมันส์ ทั้งหม่น และมองโลกลึกกว่าที่คิด
ตัวอย่างแรก Avatar: Fire and Ash จุดไฟแห่งสงคราม เปิดศักราชใหม่แห่งชนเผ่านาวี
รีวิว “4 ป่าช้า” เมื่อความหลอนถูกเล่าแบบเหวอะหวะ แต่มิติตัวละครกลับชวนให้อยู่ต่อ
F1 The Movie: เร็วแรงทะลุอารมณ์ หนังแข่งรถที่มากกว่าความเร็ว
รีวิว “Brick กำแพง” หนังลึกลับจากเยอรมันที่พยายามแตกต่าง แต่ยังไม่พังกำแพงสูตรเดิม
“นากรักมาก ม๊ากมาก” รีเมกตำนานแม่นากฉบับรอมคอม เมื่อโหน่งขึ้นแท่นผู้กำกับครั้งแรก พร้อมเคมีคู่พระนางสุดเซอร์ไพรส์