วันอาทิตย์, 13 กรกฎาคม 2568

“Superman 2025” การคืนชีพของฮีโร่เหล็กในเวอร์ชันที่กลมกล่อม ดิบ จริงใจ และลึกที่สุดที่เคยมีมา!

“Superman 2025” การคืนชีพของฮีโร่เหล็กในเวอร์ชันที่กลมกล่อม ดิบ จริงใจ และลึกที่สุดที่เคยมีมา!

เมื่อ “เจมส์ กันน์” ขึ้นแท่นผู้นำทัพจักรวาล DC โฉมใหม่ เขาเลือกเปิดศักราชด้วยการรีบูตฮีโร่ที่คุ้นหน้าคุ้นตาที่สุดของโลกอย่าง Superman และนี่คือการกลับมาที่ไม่ได้มีแค่พลังเหนือมนุษย์หรือผ้าคลุมสีแดงสุดคลาสสิกเท่านั้น แต่ยังพกพาหัวใจของความเป็น “มนุษย์” กลับมาด้วย

“Superman 2025” จึงไม่ใช่แค่หนังฮีโร่ธรรมดา แต่เป็นบทใหม่ที่เขียนขึ้นด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตัวตนของพี่ซุป—ตั้งแต่ความรู้สึกแปลกแยก การค้นหาตัวตน ไปจนถึงความหมายของการอยู่ร่วมกันในโลกที่ไม่ได้โอบกอดเขาอย่างแท้จริง

ในฐานะผู้กำกับ เจมส์ กันน์ ไม่ได้เพียงแค่หยิบ Superman มาปัดฝุ่น แต่เขาเลือก “รื้อใหม่หมดจด” พร้อมสอดแทรกประเด็นร่วมสมัยอย่างฉลาดลึกซึ้ง ตั้งแต่เรื่องตัวตนทางสังคม สิทธิของผู้อพยพ ไปจนถึงคำถามเรื่องศีลธรรมของการเป็น “ผู้พิทักษ์” โลกที่ไม่ใช่บ้านเกิดของตัวเอง

บทหนังใหม่ของเขาจึงไม่ได้เน้นการต่อสู้หรือการปล่อยพลังเป็นหลัก แต่เป็นการขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ ความคิด และมิติของตัวละครที่ทำให้ Superman เวอร์ชันนี้ “จับต้องได้” และ “เจ็บปวดได้” อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

แม้จะเป็นหนังฟอร์มยักษ์เรื่องแรก แต่ เดวิด คอเรนสเวต ก็รับบท Superman ได้อย่างไร้ที่ติ เขาไม่ได้แค่แข็งแรงหรือดูดีเท่านั้น แต่เขา แบกรับบทบาทได้เต็มน้ำหนัก ถ่ายทอดความขัดแย้งในใจ ความอบอุ่น ความสับสน และความเสียสละได้ครบเครื่อง จนกลายเป็น Superman ที่คนดู “เชื่อ” และ “อิน” ได้จริง ๆ

การแสดงของเขาไม่ได้พยายามจะยิ่งใหญ่ แต่ จริงใจ และ ทรงพลังในความนิ่งเงียบ นับเป็นซูเปอร์แมนที่สมดุลระหว่าง “เทพเจ้า” และ “คนธรรมดา” อย่างสวยงามที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เรเชล บรอสนาฮาน ทำให้เราเห็นว่า Lois Lane ไม่ได้มีดีแค่เป็นคนรักของ Superman แต่เธอคือผู้หญิงแกร่ง มีความคิด มีพลัง และเติมเต็มแก่นเรื่องอย่างลึกซึ้ง ส่วน นิโคลัส เฮาลต์ ก็ระเบิดฝีมือจนแทบขโมยซีนทุกฉากที่ปรากฏ

สมาชิกแก๊ง Justice และตัวละครเสริมอื่น ๆ อย่าง มิลลี อัลค็อก ในบทซูเปอร์เกิร์ล ก็คือไฮไลต์ชั้นดี ทั้งความมีเสน่ห์ การแสดงที่ลื่นไหล และความแปลกใหม่ที่ไม่ทำให้หนังรู้สึกหนักเกินไป

งานภาพของ เฮนรี บราแฮม คือการถ่ายทอดโลกของ Superman ที่ทั้งหนักแน่นและนุ่มลึก เทคนิคตัดต่อของ ฮอย และ อัลเพิร์ต ทำให้หนังดูไม่ยืดเยื้อ ทั้งที่เนื้อหาหนัก ส่วนดนตรีประกอบจาก เมอร์ฟีย์ และ เฟลมมิ่ง ก็คือการปลุกอารมณ์คนดูได้แบบพอดิบพอดี และยังเคารพดนตรีต้นฉบับของ จอห์น วิลเลียมส์ อย่างงดงาม

ข้อดีและข้อควรจับตา

ข้อดี

  • การตีความใหม่ที่เข้าถึงอารมณ์และสังคมปัจจุบัน
  • การแสดงที่ทรงพลังโดยไม่ต้องหวือหวา
  • งานสร้างที่ครบเครื่องและลื่นไหล
  • ประเด็นเสียดสีสังคมที่ซ่อนอยู่ในความบันเทิง

⚠️ ข้อควรจับตา

  • สำหรับคนที่คาดหวังหนังบู๊แหลก มันอาจไม่ได้ระเบิดอารมณ์เท่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป
  • โทนเรื่องหนักและจริงจัง อาจไม่เหมาะกับผู้ชมสายเบา
หมวดหมู่คะแนน (เต็ม 10)
การเล่าเรื่อง8.4
การแสดง9.0
เทคนิคงานสร้าง8.9
บทภาพยนตร์8.6
คะแนนรวม8.8

“Superman 2025″ ไม่ได้เป็นแค่การรีบูตตัวละคร แต่คือการตีความใหม่ที่เข้าถึงหัวใจมนุษย์”
เจมส์ กันน์ ไม่เพียงแค่ปลุกซูเปอร์แมนให้กลับมาอีกครั้ง แต่เขาทำให้พี่ซุป “มีเลือด มีเนื้อ และมีน้ำตา” อย่างแท้จริง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
“Ziam ปากกัด ตีนถีบ” บู๊เดือด ซัดซอมบี้ด้วยมวยไทย รีวิวเต็มสูบ พร้อมคะแนนทุกด้าน!
รีวิว Jurassic World Rebirth: จักรวาลไดโนเสาร์ที่ฟื้นคืน แต่พล็อตยังไร้น้ำหนัก ?
รีวิว 28 Years Later (28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน): คืนชีพจักรวาลซอมบี้ในตำนาน จุดไฟแฟรนไชส์สยองอีกครั้ง
รีวิว “ธี่หยด” หนังผีไทยสายบู๊ ศรัทธาไม่ช่วยอะไร มีแต่ลูกซองเท่านั้นที่เอาอยู่!
ส่องความเห็นนักวิจารณ์ต่อ Lilo & Stitch (2025) รีเมกนี้รักษาหัวใจต้นฉบับไว้ได้ไหม?
รีวิวหนัง “Mission: Impossible – The Final Reckoning” ปิดปฏิบัติการแบบหัวใจเต้นระรัว