หยุดกินเนื้อดิบ ก่อนชีวิตเสี่ยง! ทำความรู้จัก ‘เชื้อแอนแทรกซ์’ ตัวอันตรายที่คนไทยต้องรู้

08 พ.ค. 2025
19
หยุดกินเนื้อดิบ ก่อนชีวิตเสี่ยง! ทำความรู้จัก ‘เชื้อแอนแทรกซ์’ ตัวอันตรายที่คนไทยต้องรู้

ในวัฒนธรรมอาหารของไทย โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ “ลาบดิบ – ก้อยดิบ – ซอยจุ๊” คือเมนูสุดแซ่บที่หลายคนหลงใหลในรสชาติอันถึงใจ แต่เบื้องหลังความอร่อยนี้อาจแฝงมรณะที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะเชื้อร้ายที่กำลังเป็นข่าวและทำให้คนไทยหวาดกลัวกันอย่างมากในช่วงนี้ นั่นคือ “เชื้อแอนแทรกซ์” (Anthrax)

เชื้อแอนแทรกซ์คืออะไร?

หยุดกินเนื้อดิบ ก่อนชีวิตเสี่ยง! ทำความรู้จัก ‘เชื้อแอนแทรกซ์’ ตัวอันตรายที่คนไทยต้องรู้

แอนแทรกซ์ (Anthrax) เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันที่เกิดจากแบคทีเรียชื่อ Bacillus anthracis พบมากในสัตว์กินหญ้า เช่น วัว ควาย แกะ และแพะ ซึ่งสามารถแพร่สู่คนได้หากสัมผัสกับเลือดหรือเนื้อของสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยเฉพาะเนื้อที่ไม่ได้ปรุงให้สุกหรือชำแหละด้วยมือเปล่า

สิ่งที่ทำให้เชื้อนี้น่ากลัว คือมันสามารถอยู่ในดิน น้ำ และอากาศได้เป็นเวลานานในรูปแบบสปอร์ และสามารถฟักตัวได้รวดเร็วหากเข้าสู่ร่างกายมนุษย์

⚠️ แอนแทรกซ์ไม่ติดต่อจากคนสู่คนโดยตรง การติดเชื้อมักเกิดจาก “สัตว์สู่คน” เท่านั้น เช่น จากการกินเนื้อวัวดิบที่มีเชื้อปนเปื้อน หรือการสัมผัสสัตว์ที่ติดเชื้อ

ติดเชื้อแอนแทรกซ์แล้วอันตรายแค่ไหน?

หยุดกินเนื้อดิบ ก่อนชีวิตเสี่ยง! ทำความรู้จัก ‘เชื้อแอนแทรกซ์’ ตัวอันตรายที่คนไทยต้องรู้

อาการของโรคขึ้นอยู่กับช่องทางที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย:

  1. ผ่านทางผิวหนัง: จะเกิดตุ่มนูนแดง จากนั้นกลายเป็นแผลพุพอง มีรอยดำตรงกลาง
  2. ผ่านทางเดินอาหาร: ผู้ติดเชื้อจะมีอาการไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียอย่างรุนแรง อาจพบเลือดในอุจจาระ และเสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด
  3. ผ่านทางระบบหายใจ: อาการเริ่มเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่จะรุนแรงอย่างรวดเร็ว เช่น ไอ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ซึ่งมักนำไปสู่การเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

ระวัง! แอนแทรกซ์อันตรายกว่า “พยาธิจากเนื้อดิบ”

หลายคนคุ้นกับคำเตือนเรื่อง “พยาธิตัวตืด” หรือ “พยาธิใบไม้ตับ” จากการกินลาบดิบ แต่แอนแทรกซ์ต่างออกไป เพราะเป็นเชื้อแบคทีเรียร้ายแรงที่สามารถเข้าสู่กระแสเลือด และทำให้เสียชีวิตได้รวดเร็วภายในไม่กี่วัน

❗ ความอันตรายของแอนแทรกซ์อยู่ที่ “ความรวดเร็วและความรุนแรง” ไม่ใช่แค่ผลกระทบเรื้อรังเหมือนพยาธิทั่วไป

สถานการณ์ปัจจุบันในไทย (ข้อมูลอัปเดต: 6 พ.ค. 2568)

ตามรายงานจาก Thai PBS, BBC Thai และ PPTV:

  • ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อแอนแทรกซ์: 4 ราย
  • เสียชีวิตแล้ว: 1 ราย (ชายวัย 53 ปี จ.มุกดาหาร)
  • รักษาตัวอยู่: 3 ราย
  • กลุ่มเสี่ยงที่เฝ้าระวัง: 636 คน
    • พ้นระยะเฝ้าระวังแล้ว 538 คน
    • อยู่ระหว่างเฝ้าระวังอีก 98 คน (สิ้นสุด 7 พ.ค. 2568)

มาตรการควบคุมและป้องกัน

  • การควบคุมพื้นที่: จังหวัดมุกดาหารได้ออกประกาศควบคุมโรคในพื้นที่ที่พบการระบาด และตั้งศูนย์อำนวยการควบคุมการแพร่ระบาดโรคแอนแทรกซ์ที่วัดโพนสว่าง บ้านโคกสว่าง ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล 

  • การทำลายเชื้อ: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหารแนะนำวิธีทำลายเชื้อแอนแทรกซ์ ได้แก่ การใช้สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.5% (ไฮเตอร์ 1 ส่วนต่อน้ำ 10 ส่วน) ฟอก เช็ด ถู อย่างน้อย 15 นาที ตามด้วยการล้างและขัดด้วยน้ำร้อน และการต้มในน้ำเดือดอย่างน้อย 30 นาที

คำแนะนำจากหน่วยงานสาธารณสุข

  • หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ดิบ: โดยเฉพาะเนื้อวัวและควายที่ไม่ผ่านการปรุงสุก
  • ไม่ชำแหละหรือสัมผัสสัตว์ที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ: เนื่องจากอาจเป็นพาหะของเชื้อแอนแทรกซ์ หากเคยสัมผัสสัตว์หรือเนื้อที่สงสัย ควรแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขทันทีเพื่อรับการตรวจ วัคซีน และเฝ้าระวังอาการตามแนวทาง

โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่สามารถแพร่เชื้อจากสัตว์สู่คนได้โดยตรง และมีอันตรายถึงชีวิต การป้องกันและควบคุมการระบาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ประชาชนทุกคนควรให้ความร่วมมือ

วิธีป้องกันตัวจากเชื้อแอนแทร็กซ์

  • หยุดพฤติกรรมการกินเนื้อดิบทุกชนิดทันที
  • หลีกเลี่ยงการชำแหละหรือแตะต้องสัตว์ที่ตายผิดปกติ โดยเฉพาะวัว ควาย หรือแพะ
  • ปรุงเนื้อให้สุกทั่วถึงเสมอ โดยเฉพาะอาหารที่เกี่ยวกับเลือด
  • ล้างมือด้วยสบู่ทันทีหลังสัมผัสเนื้อสัตว์ หรือใช้ถุงมือป้องกันขณะเตรียมอาหาร
  • หากสงสัยว่าเนื้อที่บริโภคอาจมีความเสี่ยง ควร รีบพบแพทย์ทันที อย่ารอให้มีอาการรุนแรง

อร่อยได้...แต่ต้องปลอดภัยไว้ก่อน

ความแซ่บของอาหารพื้นบ้านแบบดิบอาจเป็นความภาคภูมิใจของวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น แต่เมื่อสุขภาพต้องแลกกับความเสี่ยงถึงชีวิต ก็ถึงเวลาที่เราทุกคนต้องทบทวนความคุ้นเคยเหล่านี้

✓ เลือกลาบสุกแทนลาบดิบ
✓ เลือกเนื้อย่างแทนซอยจุ๊
✓ เลือกสุขภาพดีกว่าเสี่ยงติดเชื้อ

หากคุณเห็นบทความนี้มีประโยชน์ แชร์ต่อเพื่อช่วยกันป้องกันภัยเงียบในชุมชน เพราะ “การรู้เท่าทัน คือเกราะป้องกันชีวิตที่ดีที่สุด” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ความรู้เรื่องนี้ เพื่อช่วยกันลดการเจ็บป่วยและแพร่เชื้อในชุมชน

ที่มาข่าวสาร: BBC, ThaiPBS,PPTV