ผลกระทบจากราคาน้ำมันพุ่งต่อค่าครองชีพ-โลจิสติกส์-เกษตรในไทย

24 มิ.ย. 2025
8
ราคาน้ำมันพุ่ง

เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ กลางปี 2568 ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจไทยในหลายภาคส่วนอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะใน 3 มิติหลัก ได้แก่ ค่าครองชีพของประชาชน, ต้นทุนโลจิสติกส์, และ ภาคเกษตรกรรม ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ ThaiSeoLink

  1. ค่าครองชีพพุ่งสูง ประชาชนรับภาระหนัก

ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักของระบบขนส่งและโลจิสติกส์ ทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าทุกประเภทสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ เนื้อหมู ผักสด และอาหารสำเร็จรูปทยอยปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ในบางพื้นที่ ราคาข้าวกล่องในร้านอาหารตามสั่งปรับขึ้นเฉลี่ย 5–10 บาทต่อจาน ขณะที่ค่าโดยสารรถสาธารณะ เช่น รถสองแถว รถตู้ และรถแท็กซี่ ต่างเรียกร้องให้ปรับค่าโดยสารขึ้นตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งทะยาน

  1. โลจิสติกส์ต้นทุนเพิ่ม ผู้ประกอบการปรับตัวเข้ม

ภาคโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันโดยตรง บริษัทขนส่งสินค้าทั้งรายเล็กและรายใหญ่ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 10–20% โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ยังพึ่งพาเครื่องยนต์ดีเซลเป็นหลัก

ผลที่ตามมาคือ หลายบริษัทต้องปรับค่าขนส่งขึ้น หรือลดจำนวนรอบการส่งของลง ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อต้นทุนผู้ผลิต แต่ยังล่าช้าต่อกระบวนการค้าขาย รวมถึงกระทบต่อการส่งออกที่แข่งขันกับต่างชาติ

ผู้ประกอบการบางรายเริ่มหันมาใช้ระบบบริหารเส้นทางขนส่ง (Route Optimization) และยานพาหนะไฟฟ้า (EV Logistics) เพื่อลดผลกระทบในระยะยาว แต่ยังถือเป็นเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับภาพรวมทั้งประเทศ

  1. เกษตรกรไทยเจอแรงกดดันสองด้าน

ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคเกษตรกรรม ทั้งในด้าน ต้นทุนการผลิต และ ต้นทุนการขนส่งผลผลิต โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่ใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร เช่น รถไถ ปั๊มน้ำ หรือรถบรรทุก ซึ่งล้วนใช้น้ำมันดีเซลเป็นหลัก

ผลที่ตามมา:

  • ราคาปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืชที่ใช้เชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตก็ปรับตัวสูงขึ้นตาม
  • ต้นทุนการขนส่งผลผลิตจากไร่สู่ตลาดเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายผลผลิตกลับไม่สามารถปรับขึ้นได้เท่าทัน ทำให้กำไรสุทธิของเกษตรกรลดลง

สิ่งนี้สร้างแรงกดดันให้เกษตรกรต้องตัดสินใจลดพื้นที่เพาะปลูก หรือหันไปปลูกพืชที่ใช้ต้นทุนน้อยลง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในอนาคต

ราคาน้ำมันพุ่ง

ทางออกและข้อเสนอแนะ

  1. ภาครัฐควรพิจารณา มาตรการบรรเทาค่าครองชีพ เช่น การตรึงราคาน้ำมันดีเซลช่วงวิกฤต หรือการลดภาษีสรรพสามิตชั่วคราว
  2. ส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก เช่น พลังงานไฟฟ้า, พลังงานแสงอาทิตย์ และเชื้อเพลิงชีวภาพ เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมันนำเข้า
  3. สนับสนุนเกษตรกร ด้วยโครงการเงินช่วยเหลือเฉพาะกิจ หรือเงินอุดหนุนต้นทุนการผลิต เพื่อให้ผ่านช่วงวิกฤตไปได้
  4. พัฒนาโครงสร้างโลจิสติกส์ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการสูญเปล่าและลดพลังงานที่ใช้