ใครจะไปคิดว่าเสียงของ ROSÉ จะมาถึงก่อนเสียงเครื่องยนต์ซะอีก?
เมื่อภาพยนตร์ F1 ที่นำแสดงโดย แบรด พิตต์ (Brad Pitt) ยังอยู่ระหว่างการโปรโมตแบบเงียบ ๆ แต่เพลงประกอบอย่าง “Messy” ที่ขับร้องโดยสมาชิกวง BLACKPINK อย่าง ROSÉ กลับเปิดตัวล่วงหน้าไปแล้ว สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟน ๆ ทั่วโลกแบบไม่ทันตั้งตัว
นี่ไม่ใช่เพียงการเปิดเพลงประกอบธรรมดา แต่คือ “บทนำทางอารมณ์” ของหนัง F1 ที่บอกกับเราอย่างเงียบ ๆ ว่า หนังเรื่องนี้อาจซ่อนอะไรบางอย่างไว้มากกว่าความเร็วในสนามแข่ง
“Messy” ซาวด์แทร็กที่พูดแทนใจนักแข่ง?
เสียงร้องของ ROSÉ ใน “Messy” ยังคงเอกลักษณ์ของเธอที่แฟนเพลงคุ้นเคย — บอบบางแต่แข็งแรง เจ็บลึกแต่ไม่ตะโกน เนื้อเพลงพูดถึงความเปราะบาง ความพยายามประคองหัวใจที่พัง และการปล่อยให้ความรู้สึกยุ่งเหยิงเป็นส่วนหนึ่งของตัวตน ซึ่งเมื่อนำมาอยู่ในบริบทของภาพยนตร์ F1 ที่มีตัวละครเอกอย่าง Sonny Hayes (แบรด พิตต์) — อดีตนักแข่งที่กลับมาสู่สนามอีกครั้งเพื่อเทรนดาวรุ่งอย่าง Joshua “Noah” Pearce (รับบทโดย Damson Idris) มันจึงเหมือนเป็นเสียงในใจของคนที่เคย “วิ่ง” เพื่อหนีบางสิ่ง แต่ก็ต้องกลับมาเผชิญหน้าอีกครั้ง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศิลปิน K-pop ข้ามไปสู่โลกของฮอลลีวูด แต่ Messy ของ ROSÉ คือก้าวที่ชัดเจนว่าศิลปินหญิงจากฝั่งเอเชียไม่ได้เป็นแค่ “สีสัน” แต่คือ “เสียงนำทาง” ของเรื่องราว
การเลือก ROSÉ มาร้องเพลงประกอบแบบเดี่ยว โดยไม่มีท่อนแดนซ์ ไม่มีคอรัสจัดจ้าน — แต่เป็นเสียงเปลือยเปล่าของอารมณ์ — ทำให้เธอกลายเป็น “Narrative Device” ทางอารมณ์ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงธีมหนังได้ก่อนแม้ยังไม่เห็นภาพ
เนื้อเพลง Messy - ROSÉ
You and I are tangled as these sheets
I’m alive but I can barely breathe
With your arms around me It feels like
I’m drowning If I reach for something I can’t keep
How bad could it really be
So baby let’s get messy
Let’s get all the way undone
Come over undress me
Just like I’ve never been touched
Baby I’m obsessed with you
And there’s no replica
Maybe if it’s messy If it’s messy,
if it’s messy Then you know it’s really
Love
I want all of your complicated
Give me hell and all of your worst
When the party’s over and I’m screaming
I hate it How bad could it really hurt
If tonight we just let it burn
So baby let’s get messy
Let’s get all the way undone
Come over undress me
Just like I’ve never been touched
Baby I’m obsessed with you
And there’s no replica
Maybe if it’s messy If it’s messy,
if it’s messy Then you know it’s really
Love
Love
You’re pulling back
and I’m running for the door
You’re saying those words
and it just makes me want you more
A second chance with our hearts on the floor
Guess it’s love
So baby let’s get messy
Let’s all the way undone
Come over undress me
Just like I’ve never been touched
Baby I’m obsessed with you
And there’s no replica
Maybe if it’s messy If it’s messy,
if it’s messy Then you know it’s really
Love
Love
Then you know it’s really
Love
Love
กระแสตอบรับเพลง Messy
หลังจากปล่อยเพลง “Messy” บน YouTube และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เพลงนี้ไต่อันดับบนชาร์ตในหลายประเทศอย่างรวดเร็ว ติดเทรนด์ Twitter และ YouTube ภายในไม่กี่ชั่วโมง คอมเมนต์จากแฟน ๆ และนักฟังเพลงทั่วโลกต่างชื่นชม “Messy” ว่าเป็นเพลงที่ “ฟังแล้วเหมือนอยู่ในฉากหนังโดยที่ยังไม่ต้องเปิดดู” — บางคนถึงกับบอกว่า “นี่แหละเพลงที่บอกว่า Brad Pitt ไม่ได้เล่นหนังแข่งรถ แต่เล่นหนังที่มีหัวใจ”
F1 เมื่อสนามแข่งกลายเป็นสนามชีวิต พร้อมฉาย 27 มิ.ย. นี้
F1 เป็นเรื่องราวของ ซอนนี เฮย์ส (Brad Pitt) อดีตนักแข่งที่ผันตัวมาช่วยเหลือทีมเล็ก ๆ อย่าง APXGP และทำหน้าที่เป็นโค้ชให้ โจชัว “โนอาห์” เพียร์ซ (รับบทโดย แดมสัน อิดริส) นักแข่งหน้าใหม่ที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองในโลกที่ไม่มีที่ให้คนอ่อนแอ
แม้พล็อตจะเรียบง่าย แต่เมื่อประกอบกับการถ่ายทำในสนามแข่งจริงในฤดูกาล F1 ปี 2023–2024 บวกกับเพลงอย่าง Messy ที่เน้นอารมณ์มากกว่าจังหวะ มันทำให้หนังเรื่องนี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมากกว่าหนังรถซิ่งธรรมดา F1 มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ในสหรัฐฯ
นี่ไม่ใช่หนังแข่งรถธรรมดา เพราะผู้กำกับคือ Joseph Kosinski (Top Gun: Maverick) และโปรดิวเซอร์คือ Jerry Bruckheimer ซึ่งร่วมงานกับ Lewis Hamilton แชมป์โลก F1 ตัวจริงในฐานะที่ปรึกษาและผู้อำนวยการสร้างร่วม
ในยุคที่เพลงประกอบหนังมักถูกปล่อยพร้อมตัวอย่างหรือหลังฉายจริง การที่ ROSÉ ปล่อย “Messy” ออกมาก่อนล่วงหน้าหลายสัปดาห์ คือการเปิดเกมทางอารมณ์ให้กับ F1 อย่างชาญฉลาด และน่าติดตาม
Messy ไม่ได้ทำหน้าที่แค่เป็นซาวด์แทร็ก แต่มันคือการส่งสัญญาณว่า F1 ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ที่เน้นความมันส์และเสียงเครื่องยนต์ แต่ยังซ่อนอารมณ์ ความล้มเหลว ความพยายาม และคำถามในใจของคนที่ต้อง “ขับชีวิตตัวเอง” ให้ไปถึงเส้นชัย
