กระแสอาหารบาร์ฟ (BARF – Biologically Appropriate Raw Food) กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุนัข เพราะเชื่อว่าอาหารดิบสดใหม่ช่วยเสริมสุขภาพให้ขนเงางาม ฟันแข็งแรง และระบบย่อยดีขึ้น ซึ่งในตลาดตอนนี้มีแบรนด์ดังที่ได้รับความไว้วางใจอยู่หลายเจ้า และ 2 ชื่อที่มาแรงมากสายบาร์ฟต้องรู้ Dogster Fresh หรือ Barf Bowl แล้วทั้งสองแบรนด์นี้แตกต่างกันอย่างไร? ThaiSeoLinkมาดูรีวิวเปรียบเทียบกันเลย!
สารบัญ
น้องหมากินดี มีชัยไปกว่าครึ่ง สายบาร์ฟต้องรู้ Dogster Fresh หรือ Barf Bowl
Dogster Fresh – สดใหม่พร้อมเสิร์ฟ
จุดเด่น:
- ใช้เนื้อสัตว์คุณภาพเกรดเดียวกับมนุษย์ (Human-grade)
- มีการปรุงสุกบางส่วน (ไม่ใช่บาร์ฟแบบดิบ 100%) เหมาะกับน้องหมาที่ระบบย่อยยังบอบบาง
- มีสูตรเฉพาะ เช่น สำหรับลดน้ำหนัก, ผิวหนังแพ้ง่าย หรืออายุเยอะ
- มาในรูปแบบแพ็กแช่แข็ง พร้อมอุ่นหรือให้กินได้ทันที
- สะดวก พกพาง่าย ไม่ต้องจัดเตรียมเอง
เหมาะกับใคร?
- เจ้าของที่ไม่มีเวลาทำบาร์ฟเอง
- คนที่อยากให้สุนัขลองอาหารใกล้เคียงธรรมชาติแต่ยังสะอาดปลอดภัย
- สุนัขเด็กหรือมีปัญหาระบบย่อย
Barf Bowl – บาร์ฟแท้ ๆ ตามธรรมชาติ
จุดเด่น:
- เป็นอาหารบาร์ฟดิบแท้ 100% ทั้งเนื้อดิบ อวัยวะ เครื่องใน กระดูกบด
- ไม่มีการปรุงแต่งรสชาติหรือผ่านความร้อน
- ใช้เนื้อคุณภาพสูงจากแหล่งที่เชื่อถือได้
- มีสูตรเฉพาะสายพันธุ์ เช่น สูตรสำหรับชิวาวา โกลเด้น หรือสายพันธุ์ใหญ่
- ควบคุมสัดส่วนโปรตีน-ไขมันอย่างสมดุล
เหมาะกับใคร?
- คนที่เลี้ยงสุนัขแบบสายธรรมชาติเต็มรูปแบบ
- เจ้าของที่มีประสบการณ์การให้อาหารบาร์ฟ
- สุนัขที่ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพหรือระบบย่อย
เหตุผลหลักที่หลายคนเลือกให้สุนัขกินอาหารบาร์ฟ (BARF)
- ใกล้เคียงธรรมชาติของสุนัขมากที่สุด
สุนัขมีระบบย่อยอาหารที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ (หมาป่า) ซึ่งออกแบบมาให้ย่อยอาหารดิบ เช่น เนื้อสด เครื่องใน และกระดูก การให้อาหารบาร์ฟจึงเป็นการคืนกลับสู่ธรรมชาติอย่างแท้จริง
- ช่วยให้สุขภาพดี ขนสวย ฟันแข็งแรง
อาหารบาร์ฟมักอุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูง ไขมันดี เอนไซม์ธรรมชาติ และไม่มีสารกันบูด ส่งผลให้น้องหมา
- ขนเงางาม
- กล้ามเนื้อแน่น
- ระบบขับถ่ายดี
- ฟันสะอาดขึ้นจากการเคี้ยวกระดูก
- ลดสารเคมีจากอาหารแปรรูป
อาหารเม็ดหรืออาหารเปียกบางยี่ห้อมีสารปรุงแต่ง กลูเตน และสารกันเสียที่อาจสะสมในร่างกายสัตว์เลี้ยงได้ในระยะยาว
บาร์ฟช่วยลดโอกาสแพ้สารเคมีและอาการคันเรื้อรังได้ในหลายกรณี
- เจ้าของควบคุมวัตถุดิบได้เอง
คุณสามารถเลือกเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ หรือแม้แต่กระดูกที่เหมาะกับสุขภาพของสุนัขเฉพาะตัวได้ เช่น ควบคุมปริมาณไขมัน หรือเลือกวัตถุดิบออร์แกนิก ช่วยให้อาหารมีคุณภาพมากขึ้น
หมายเหตุ:
การให้อาหารบาร์ฟต้องศึกษาให้ดี เช่น อัตราส่วนเนื้อ-กระดูก-อวัยวะ, การแช่แข็งฆ่าเชื้อ, และวิธีเปลี่ยนอาหารอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อป้องกันปัญหาทางสุขภาพ
ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล : blueberlin
