น้ำมันมะกอก vs น้ำมันอโวคาโด้ อะไรดีกว่ากันสำหรับการดูแลสุขภาพ

06 ก.พ. 2025
119
น้ำมันมะกอก vs น้ำมันอโวคาโด้ อะไรดีกว่ากัน

ในยุคที่เราหันมาใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น น้ำมันที่ใช้ในการทำอาหารก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ น้ำมันมะกอก vs น้ำมันอโวคาโด้ อะไรดีกว่ากัน เป็นสองทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมากThaiSeoLink แต่ทั้งสองมีคุณสมบัติและประโยชน์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูเปรียบเทียบแต่ละประเภทของน้ำมันเหล่านี้ว่าอันไหนดีกว่าสำหรับการดูแลสุขภาพของเรา

สารบัญ

ประโยชน์ที่แตกต่างกัน น้ำมันมะกอก vs น้ำมันอโวคาโด้ อะไรดีกว่ากัน

น้ำมันมะกอก: บำรุงหัวใจและป้องกันการอักเสบ

ส่วนประกอบและสารอาหาร:
น้ำมันมะกอกมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated fats) ซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อสุขภาพ มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นโพลีฟีนอลที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันความเสื่อมของเซลล์ นอกจากนี้ยังมีวิตามิน E และ K ที่ช่วยบำรุงร่างกาย

ประโยชน์ต่อสุขภาพ:

    • หัวใจ: น้ำมันมะกอกมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เนื่องจากช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลดี (HDL)
    • การลดอักเสบ: สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันมะกอกช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้อเสื่อมและโรคเบาหวาน
    • ควบคุมความดันโลหิต: การบริโภคน้ำมันมะกอกในปริมาณที่พอเหมาะช่วยควบคุมความดันโลหิตและลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือด

การใช้ในอาหาร:
น้ำมันมะกอกเหมาะสำหรับการทำอาหารที่มีอุณหภูมิไม่สูงมาก เช่น การทำสลัด น้ำสลัด หรือการทอดที่อุณหภูมิไม่เกิน 180 องศาเซลเซียส

น้ำมันอโวคาโด้: ตัวช่วยในการลดคอเลสเตอรอลและบำรุงผิวพรรณ

ส่วนประกอบและสารอาหาร:
น้ำมันอโวคาโด้มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวเช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก แต่ยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงหลาย (Polyunsaturated fats) ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และช่วยบำรุงผิว นอกจากนี้ยังมีวิตามิน E, K และกรดโฟลิก ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวม

ประโยชน์ต่อสุขภาพ:

    • หัวใจ: น้ำมันอโวคาโด้ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลดี ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
    • การลดความดันโลหิต: น้ำมันอโวคาโด้มีกรดไขมันที่ช่วยลดความดันโลหิต จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจากโรคความดันโลหิตสูง
    • บำรุงผิว: น้ำมันอโวคาโด้มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวพรรณ ช่วยลดการอักเสบและเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวมีสุขภาพดีและลดริ้วรอย
    • การควบคุมน้ำหนัก: น้ำมันอโวคาโด้ช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่ม ทำให้การควบคุมอาหารมีประสิทธิภาพดีขึ้น

การใช้ในอาหาร:
น้ำมันอโวคาโด้มีจุดเดือดสูงถึง 250 องศาเซลเซียส จึงเหมาะสำหรับการทอดหรือปรุงอาหารที่มีอุณหภูมิสูงได้ดี

น้ำมันมะกอก vs. น้ำมันอโวคาโด้: เปรียบเทียบประโยชน์ตามประเภทต่างๆ

ปัจจัยน้ำมันมะกอกน้ำมันอโวคาโด้
กรดไขมันกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและหลาย
สารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอล, วิตามิน Eวิตามิน E, กรดโฟลิก
ประโยชน์ต่อหัวใจลดคอเลสเตอรอล LDL, เพิ่ม HDLลดคอเลสเตอรอล LDL, เพิ่ม HDL
การควบคุมความดันโลหิตช่วยลดความดันโลหิตช่วยลดความดันโลหิต
การดูแลผิวช่วยให้ผิวชุ่มชื้นลดการอักเสบ, เพิ่มความชุ่มชื้น
จุดเดือด190 องศาเซลเซียส250 องศาเซลเซียส
การเก็บรักษาอายุการใช้งานนานเมื่อเก็บในที่เย็นอายุการใช้งานสั้นกว่า, ควรเก็บในตู้เย็น
น้ำมันมะกอก vs น้ำมันอโวคาโด้ อะไรดีกว่ากัน

การเก็บรักษาน้ำมันมะกอกและน้ำมันอโวคาโด้อย่างถูกต้อง

วิธีเก็บรักษาน้ำมันมะกอก

    • เก็บในที่มืดและเย็น – น้ำมันมะกอกไวต่อแสงแดดและความร้อน ควรเก็บในที่เย็น เช่น ตู้กับข้าว หรือในขวดที่ปิดสนิท
    • ใช้ขวดสีทึบ – เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดแก้วสีเข้มเพื่อป้องกันแสงที่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน
    • ปิดฝาให้สนิท – อากาศสามารถทำให้น้ำมันเหม็นหืนได้ ควรปิดฝาให้แน่นหลังใช้ทุกครั้ง
    • ไม่แช่ตู้เย็น – น้ำมันมะกอกสามารถแข็งตัวเมื่อถูกความเย็นต่ำ หากแช่ในตู้เย็นจะเกิดไข แต่สามารถคืนสภาพได้เมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้อง

อายุการเก็บรักษา: ประมาณ 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำมัน

วิธีเก็บรักษาน้ำมันอโวคาโด้

    • เก็บในที่เย็นและมืด – ควรเก็บในที่อุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อนสูง
    • ใช้ขวดที่ปิดสนิท – น้ำมันอโวคาโด้เสื่อมคุณภาพได้เร็วหากสัมผัสอากาศมากเกินไป
    • แช่ตู้เย็นได้ถ้าเปิดใช้แล้ว – หลังจากเปิดขวดแล้ว ควรเก็บในตู้เย็นเพื่อลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน น้ำมันอาจข้นขึ้นแต่จะกลับสู่สภาพปกติเมื่ออยู่ในอุณหภูมิห้อง
    • เลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดสีเข้ม – เช่นเดียวกับน้ำมันมะกอก เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพจากแสง

อายุการเก็บรักษา: ประมาณ 6-12 เดือน และหากเปิดขวดแล้วควรใช้ให้หมดภายใน 3-6 เดือน

ขอบคุณแหล่งที่มาข้อมูล : wongnai